แม้พระเตมีย์จะบอกแจ่มแจ้งเช่นนี้ นายสารีก็ยังไม่เชื่ออยู่นั่นเอง พระองค์ทรงดำริว่า จักทำให้เขาเชื่อให้จงได้ ตรัสอานิสงส์ของผู้ไม่ประทุษร้ายมิตรให้ฟังว่า
๑. ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร พลัดพรากจากเรือนของตน จะเป็นคนมีภิกษาอันมาก คนเป็นอันมากจะพากันเข้าไปรับใช้
๒. ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร จะไปชนบทใด ตำบลใด ราชธานีใด ย่อมได้รับบูชาในที่ทุกแห่ง
๓. ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร พวกโจรจะไม่ข่มเหง พระราชาจะไม่ดูหมิ่น จะผ่านพ้นศัตรูทั้งหมดได้
๔. ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตรมาถึงเรือนของตน จะไม่มีใครโกรธ จะได้รับความชื่นชมในที่ประชุม จะเป็นคนสูงสุดของหมู่ญาติ
๕. ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร ย่อมได้รับสักการะ เพราะสักการะท่านแล้ว ย่อมได้รับความเคารพ เพราะเคารพท่านแล้ว ย่อมประสบแต่การกล่าวขวัญในด้านที่เป็นคุณ
๖. ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร มิ่งขวัญจะไม่พรากไปจากตน ย่อมรุ่งเรืองเหมือนกองไฟ ไพโรจน์เหมือนเทวดา
๗. ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร เป็นคนบูชาท่าน ย่อมได้รับบูชาตอบ เป็นผู้ให้ท่าน ย่อมได้รับการให้ตอบ ย่อมได้ยศและเกียรติ
๘. ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร โคของเขาย่อมตกลูก พืชที่หว่านในไร่นาย่อมงอกงามดี ย่อมได้รับผลของพืชที่หว่านไว้
๙. ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร ถึงจะพลาดพลั้งตกลงไปในเหว ตกลงไปจากยอดเขา หรือจากต้นไม้ ย่อมได้ที่พึ่ง
๑๐. ผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร ศัตรูจะไม่ข่มเหง เหมือนเถาย่านไทรไม่ครอบคลุมต้นไทยที่มีรากและย่านงอกงามเต็มที่แล้วฉันนั้น
นายสารถีสุนันทะฟังพระดำรัสของพระเตมีย์ถึงเพียงนี้ ก็ยังไม่รู้จักอยู่นั้นเอง ยิ่งสงสัยหนักขึ้น ว่าใครกันหนอ เขาเลิกขุดหลุม ลุกขึ้นเดินไปที่ข้างรถ ไม่เห็นพระราชกุมาร จึงเดินมาใหม่ จ้องดูพระองค์ คราวนี้จำได้ จึงหมอบลงที่พระบาทยุคล ประนมมือกราบทูลอ้อนวอนว่า "ข้าพระบาทจะพาพระองค์กลับพระราชวัง ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอเชิญครองราชสมบัติเถิด จักทรงทำอะไรในป่าเล่า พระเจ้าข้า"
พระเตมีย์ตรัสว่า "นายสารถี พอกันทีเถอะ เรื่องราชสมบัติ เรื่องอาณาหรือเรื่องทรัพย์ เพราะเรื่องราชสมบัติ มันทำให้ฉันต้องประพฤติธรรม"
สุนันทะกราบทูลว่า "ข้าแต่พระราชบุตร พระองค์เสด็จไปจากนี้แล้ว จะเป็นการโปรดให้ข้าพระองค์ได้รับบำเหน็จรางวัลอย่างล้นเหลือ พระราชบิดาพระราชมารดาจะพระราชทานแก่ข้าพระบาท โปรดเสด็จไปเถิดพระเจ้าข้า พวกพระสนมกำนัล พราหมณ์ แพศย์ พร้อมทั้งทวยหาญทั้ง ๔ เหล่า ต่างจะมีใจยินดีให้รางวัลแก่ข้าพระบาททั่วกัน ชาวชนบท ชาวนิคมที่ร่ำรวย จะมาพร้อมกันให้บรรณาการแก่ข้าพระบาท ถ้าพระองค์เสด็จไป โปรดเถิดพระเจ้าข้า เสด็จไปพระราชวังเถิด"
พระราชกุมารเตมีย์ตรัสว่า "ดูรา สุนันทะ ข้าพเจ้าสละหมดแม้พระชนกชนนีและแว่นแคว้นแผ่นดิน ตลอดถึงบรรดาเพื่อนเด็กทั้งหลายของข้าพเจ้าไม่มี ข้าพเจ้าได้รับอนุญาตจากพระชนนีแล้ว พระชนกเล่าก็ทรงตัดขาดจากข้าพเจ้าแล้ว จักขอบวชอยู่ในป่าแต่ผู้เดียว ไม่ปรารถนากามต่อไป"
เมื่อพระเตมีย์ตรัสอยู่เช่นนี้ ก็เกิดปีติ ทรงเห็นความพยายามอย่างทรหดของพระองค์เป็นผล ทรงเปล่งพระอุทานว่า
" เออนะ ความหวังในผลย่อมสำเร็จด้วยดี แก่ผู้ที่ไม่ใจเร็วด่วนได้ สารถีเอ่ย ท่านพึงทราบอย่างนี้ว่า ข้าพเจ้ามีความปรารถนาแห่งหัวใจสำเร็จแล้ว
เออนะ ประโยชน์ที่ชอบย่อมสำเร็จแก่ผู้ที่ไม่ใจเร็วด่วนได้ ข้าพเจ้ามีความปรารถนาแห่งหัวใจสำเร็จแล้ว ออกมาได้แล้ว ปลอดภัยแล้ว"
สุนันทสารถีกราบทูลว่า "พระองค์มีพระดำรัสไพเราะ พระองค์มีพระดำรัสสละสลวยถึงเพียงนี้ เหตุไรไม่ตรัสในสำนักพระชนกชนนีเมื่อตอนนั้น"
พระเตมีย์ตรัสว่า "ข้าพเจ้าไม่ใช่คนง่อย เพราะไม่มีเส้นเอ็น ไม่ใช่คนหนวก เพราะไม่มีช่องโสต ไม่ใช่คนใบ้ เพราะไม่มีลิ้น ท่านอย่าหมายใจว่าข้าพเจ้าเป็นคนใบ้เลย ข้าพเจ้าระลึกชาติก่อนได้ว่า ชาติที่ข้าพเจ้าครองราชย์อยู่ ๒๐ ปี ไปหมกไหม้อยู่ในนรก ๘๐,๐๐๐ ปี ข้าพเจ้ากลัวราชสมบัติเหลือเกิน ชนทั้งหลายอย่าอภิเษกข้าพเจ้าแม้ในราชสมบัติเลย เพราะเหตุนั้นข้าพเจ้าจึงไม่พูดในสำนักพระชนกชนนีในตอนนั้น พระชนกอุ้มข้าพเจ้าให้นั่งเหนือพระเพลา ทรงตัดสินคดีให้ฆ่าโจรคนหนึ่ง ให้จองจำโจรคนหนึ่ง ให้เอาหอกแทงโจรคนหนึ่ง ให้เสียบเป็นโจรคนหนึ่ง ข้าพเจ้าได้ฟังแล้ว โอแสนร้ายกาจ ข้าพเจ้าไม่เป็นใบ้ก็ต้องเป็นใบ้ ไม่เป็นง่อยก็ต้องแสร้งทำเป็นง่อย ข้าพเจ้ายอมคลุกอยู่ในกองมูตรคูถของตน ชีวิตของตนนั้นแร้นแค้น ต้องต่อต้านอยู่โดยรอบ และประกอบไปด้วยทุกข์ ใคร ๆ ยังจะอาศัยชีวิตนี้ก่อเวรกับใคร ๆ อยู่อีกหรือ เพราะไม่ได้ปัญญา เพราะไม่เห็นธรรม ใคร ๆ จึงอาศัยชีวิตนี้ก่อเวรกันอยู่
"สารถีเอ่ย ท่านจงทราบอย่างนี้ว่า ข้าพเจ้ามีความปรารถนาแห่งหัวใจสำเร็จแล้ว"
สุนันทสารถีฟังพระดำรัสแล้ว คิดว่า "พระราชกุมารนี้ทรงทิ้งสิริราชสมบัติเสียเหมือนทิ้งซากศพ ไม่ยอมทำลายความตั้งพระทัยที่ว่า เราจักบวชเลย เสด็จเข้าป่าจนได้ เราจะมัวห่วงใยชีวิตเลว ๆ ของเราไปใย บวชกับพระองค์ดีกว่า" คิดแล้วกราาบทูลว่า "ข้าแต่พระราชบุตร ข้าพระบาทขอบวชในสำนักของพระองค์ ขอพระองค์โปรดอนุญาตการบวชแก่ข้าพเจ้าเถิด พระเจ้าข้า"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น