วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ชาติที่ ๖ พระภูริทัต (หน้า ๕)



พราหมณ์เนสาท  (ต่อ)

พระภูริทัตได้ฟังดังนั้นจึงกล่าวว่า  "ดูก่อนพราหมณ์  ยศศักดิ์ของเราถ้าเทียบเท่ากับของท้าวโกสีย์แล้วก็นับว่าเลวมาก  เหมือนเมล็ดพันธุ์ผักกาดข้างภูเขาสิเนรุ  แม้เพียงคนใช้ของท้าวโกสีย์เราก็เปรียบไม่ถึง  เราต้องการจะได้ทิพยสมบัติเช่นเทวดานั่นสิ  จึงได้ไปรักษาอุโบสถอยู่บนจอมปลวก"

พราหมณ์เนสาทเห็นได้ช่องจึงทูลว่า  "ข้าพระองค์กับบุตรออกป่าเสาะหาเนื้อมานานวันแล้ว  พวกญาติทางบ้านไม่รู้ว่า  เป็นตายร้ายดีอย่างไรข้าพระองค์อยากจะทูลลากลับไปยังมนุษยโลก  ขอพระองค์ได้โปรดอนุญาตให้ข้าพระองค์ได้กลับไปเถิด"

"เมื่อเราได้ให้ความสุขสำราญแก่ท่านด้วยทรัพย์สมบัติ  อันจะหาไม่ได้ในมนุษยโลกถึงปานนี้แล้ว  เมื่อท่านไม่ปรารถนาจะอยู่เราก็อนุญาต  และเราจะให้แก้วมณีแก่ท่านไปด้วย  เมื่อปรารถนาสิ่งใด  ก็จงระลึกเอาและจะได้สมประสงค์ทุกประการ"

"ข้าแต่พระภูริทัต  พระองค์ตรัสมาดังนั้น  ก็นับว่าเป็นส่วนกุศลที่น่ายินดีอย่างยิ่งแล้ว  แต่ข้าพระองค์แก่แล้ว  มิได้ประสงค์สิ่งอันใดให้มากต่อไปอีก  นอกจากจะบวช"

"ถ้าท่านพราหมณ์รักษาพรหมจรรย์ไว้ไม่ได้  และเกิดความจำเป็นอันใดขึ้น  ก็อย่าอำความไว้  จงมาหาเรา"  พระภูริทัตตรัสบอกแก่พราหมณ์

เมื่อพราหมณ์รับคำแล้ว  พระภูริทัตก็ตรัสเรียกนาคมาณพมา  สั่งให้พาพราหมณ์ไปส่งยังมนุษยโลก  พอถึงมนุษยโลกขณะที่กำลังเดินทางไปบ้าน  พราหมณ์ก็ได้ชี้บอกลูกชายว่า  "เราเคยมายิงเนื้อสุกรที่นี่"  พอถึงสระโบกขรณีแห่งหนึ่งก็ชวนลูกชายลงอาบน้ำ  ขณะนั้นเครื่องประดับและผ้าทิพย์ก็อันตรธานหายกลับไปยังนาคพิภพ  ผ้าชุดเก่าที่เคยนุ่งห่มมาแต่ก่อน  พร้อมทั้งธนูศรและหอกก็ปรากกมีมาตามเดิม  โสมทัตลูกชายจึงร้องไห้ด้วยความเสียดาย  พราหมณ์บิดาจึงปลอบว่า  "เจ้าอย่าวิตกไปเลย  ตราบใดที่เนื้อในป่ายังมีอยู่  เราก็จักฆ่ามาเลี้ยงชีพกันต่อไป"  แล้วสองพ่อลูกก็เดินทางกลับบ้าน

ฝ่ายนางพราหมณีก็ต้อนรับสามีและบุตรชาย  จัดหาอาหารมาเลี้ยงดูจนอิ่มหนำสำราญ  พรหมณ์เน
สาทอิ่มแล้วก็หลับไป  นางจึงถามโสมทัตว่า  "เจ้ากับพ่อเจ้าไปไหนมาช้านานถึงเพียงนี้ ?"  โสมทัตจึงเล่าให้ฟังโดยตลอด  นางจึงถามต่อไปว่า  "นี่เจ้าได้อะไรติดมือมาบ้างหรือเปล่า ?"  โสมทัตจึงเล่าว่า  "พระภูริทัตจะให้แก้วสารพัดนึกแก่พ่อ  แต่พ่อไม่รับเอา  กลับบอกเสียว่าแก่แล้วจักออกบวช"  นาง
พราหมณีได้ฟังดังนั้นก็โกรธ  ว่าพราหมณ์นี้ทิ้งทารกให้ตกเป็นภาระเลี้ยงดูแก่เรา  และไปอยู่เสียในนาคพิภพนมนาน  ครั้นกลับมาก็จะออกบวชเสียอีกเล่า  จึงตีพราหมณ์สามีด้วยขอฉาย (ไม้สงฟางข้าว)  พร้อมกับบริภาษว่า  "อ้ายพราหมณ์ชั่วร้าย  ได้ยินว่าจะบวชรึ ?"  พระพภูริทัตให้แก้วมณีก็ไม่เอา  ทำไมไม่บวชเสียที่นั่นเล่า  กลับมาที่นี่ทำไม ?"  พราหมณ์สามีกำลังหลับเมื่อถูกตีก็ตกใจลุกขึ้นปลอบภรรยาว่า  "แม่พราหมณีจ๋า  อย่าวิตกไปเลย  ตราบใดที่เนื้อในป่ายังมีอยู่  ข้าก็จะไปหามาเลี้ยงเจ้า"  ว่าแล้วก็ชวนลูกออกป่าล่าสัตว์  ดำเนินชีวิตแบบเก่าต่อไปตามเดิม


....................................


คัดจาก....หนังสือทศชาติชาดก (พระเจ้าสิบชาติ)
โดย....แปลก  สนนธิรักษ์




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น