ทรัพย์ กับ ปัญญา อย่างไหนประเสริฐกว่ากัน ปัญหานี้ได้ถกเถียงกันมานานแล้ว แต่ยังไม่ยุติกันลงไปได้ บางพวกว่า ทรัพย์ประเสริฐกว่าปัญญา เพราะทรัพย์เป็นแก้วสารพัดนึก จะต้องการอะไรก็ได้ ไม่เห็นจำเป็นต้องมีปัญญาเลย บางพวกว่า ปัญญาประเสริฐกว่าทรัพย์ เพราะทรัพย์ที่หามาได้ก็อาศัยปัญญา ถ้าไม่มีปัญญาจะหาทรัพย์ได้อย่างไร การรักษาทรัพย์ก็ต้องอาศัยปัญญา ถ้าไม่มีปัญญาจะรักษาทรัพย์ได้อย่างไร นี้เป็นปัญหาที่ถกเถียงกันอยู่ เรื่องยอดบัณฑิตนี้จะตัดสินความข้อนี้โดยยุติ :-
มโหสธ เป็นชื่อของยอดบัณฑิตในเรื่องนี้ เป็นบุตรเศรษฐีสิริวัฒกะกับนางสุมนาเทวี เมื่อคลอดออกมามีแท่งโอสธในมือ เศรษฐีบิดาเป็นโรคปวดศีรษะมา ๗ ปี จึงเอาแทงโอสธนั้นมาฝนที่หินบดแล้วทาที่หน้าผาก หายปวดศีรษะทันที ความศักดิ์สิทธิ์ของโอสธนั้นได้แพร่หลายทั่วไป ใครเจ็บไข้ได้ป่วยก็มาหาเศรษฐี เมื่อได้โอสธรักษา ก็หายไปทุกคน เพราะโอสธวิเศษนี้เศรษฐีจึงตั้งชื่อบุตรว่า "มโหสธ"
เศรษฐีดำริว่า ในวันที่บุตรของเราเกิดนี้ คงมีทารกอื่น ๆ เกิดอีกมากจึงให้สำรวจดู ก็ทราบว่า มีทารกที่เกิดวันเดียวกันกับมโหสธถึง ๑,๐๐๐ คน เศรษฐีจึงให้นำเครื่องประดับไปมอบแก่ทารกทุกคน และให้นางนมอีก ๑,๐๐๐ คน
มโหสธมีเพื่อนเด็ก ๆ รุ่นเดียวกันมากมาย เล่นหัวกันอย่างสนุกสนานจวบจนอายุได้ ๗ ขวบ มโหสธมีรูปร่างงดงามสง่าผ่าเผยกว่าทรกอื่น ๆ และมีกำลังแข็งแรง วันหนึ่งขณะที่กำลังเล่นกันเพลินอยู่ ฝนตั้งเค้าลงมา มโหสธเห็นดังนั้นก็วิ่งหลบไปถึงศาลาแห่งหนึ่งด้วยความเร็ว ส่วนเด็กนอกนั้นวิ่งตามไปข้างหลัง เหยียบกันหกล้มลุกคลุกคลาน บ้างก็เท้าแพลง บ้างก็เข่าแตก บ้างก็หัวโน มดหสธเห็นดังนั้นจึงคิดจะสร้างสถานที่สำหรับเล่นให้สะดวกสสบายทั้งเวลายืน เวลาเดิน เวลานั่ง เวลาวิ่ง ไม่ต้องกรำแดดกรำฝน จึงแจ้งให้เพื่อนเด็ก ๆ ทราบ แล้วขอให้ทุกคนนำเงินมาคนละ ๑ กหาปณะ (กหาปณะหนึ่ง เท่ากับ ๔ บาท) เมื่อได้กหาปณะครบ ๑,๐๐๐ จึงเรียกช่างมาจัดทำ นายช่างได้ปราบพื้นจนเสมอแล้วก็เอาเชือกขึงกะที่ มโหสธเห็นนายช่างขึงเชือกไม่ถูกแบบ ก็เข้าไปบอกขอให้ขึงใหม่ นายช่างไม่ยอมทำตาม บอกมโหสธว่า "ได้ทำตามศิลปะของตน"
มโหสธจึงเอาเชือกขึงเสียเอง เชือกที่มโสธขึงเป็นประหนึ่งว่าท้าววิสสุกรรมขึง ซึ่งนายช่างทำไม่ได้ นายช่างขอให้มโหสธเป็นผู้ให้ความคิดเห็นในการจัดทำ มโหสธจึงจัดแปลนสถานที่เป็นห้อง ๆ คือ จัดเป็นห้องสำหรับหญิงอนาถาคลอดบุตรห้องหนึ่ง จัดเป็นห้องสำหรับสมณพราหมณ์มาพักห้องหนึ่ง จัดเป็นห้องสำหรับคนเดินทางมาพักห้องหนึ่ง จัดเป็นห้องสำหรับเก็บข้าวของและสินค้าของพ่อค้าผู้มาพักห้องหนึ่ง ห้องเหล่านี้ให้ทำประตูทางหน้ามุขมีสนามเล่น มีโรงวินิจฉัยคดี ทุกห้องจิตรกรได้วาดภาพอย่างวิจิตรบรรจง นอกจากนี้ยังได้สร้างสระโบกขรณี มีท่าขึ้นลง ๑๐๐ ท่า ดารดาษไปด้วยดอกบัวนานาชนิด มีสวนต้นไม้ต่าง ๆ พรรณ สถานที่เหล่านี้เป็นความคิดของมโหสธออกแบบให้ช่างทำ เมื่อทำเสร็จแล้วดูคล้ายเทวสภา มหาชนต่างพากันมาประชุมเป็นจำนวนวันละมาก ๆ มโหสธทำหน้าที่เป็นผู้วินิจฉัยคดี ที่มีผู้มาขอให้ตัดสินโดยยุติธรรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น