![]() |
ชาติที่ ๒. พระมหาชนก |
พระเจ้ามหาชนกกษัตริย์แห่งกรุงมิถิลาวิเทหรัฐ ทรงมีพระราชโอรสสองพระองค์ ทรงพระนามว่า
เจ้าอริฏฐชนก องค์หนึ่ง เจ้าโปลชนก องค์หนึ่ง
พระราชบิดาพระราชทานตำแหน่งอุปราชแก่เจ้าอริฏฐชนก พระราชทานตำแหน่งเสนาบดีแก่เจ้าโปลชนก
เมื่อพระเจ้ามหาชนกเสด็จสวรรคต เจ้าอริฏฐชนกได้เสวยราชสมบัติสืบแทน พระราชทานตำแหน่งอุปราชแก่เจ้าโปลชนกผู้เป็นพระอนุชา
ครั้นกาลต่อมา มีอำมาตย์คนหนึ่งหาเรื่องใสไคล้เจ้าโปลชนกอุปราช เข้าไปกราบทูลพระเจ้าอริฏฐชนกว่า "ขอเดชะ บัดนี้ภัยใหญ่จะมาถึงพระองค์แล้ว พระมหาอุปราชคิดการร้ายต่อพระองค์ โดยจะปลงพระชนม์ของพระองค์ แล้วตั้งตนเป็นพระมหากษัตริย์ พระเจ้าข้า" พระเจ้าอริฏฐชนกยังมิปลงพระทัยเชื่อก่อน ครั้นอำมาตย์กราบทูลบ่อย ๆ เข้าก็ทรงเชื่อ หมดความรักในพระอนุชา รับสั่งให้จับพระเจ้าโปลชนกมหาอุปราช แล้วจองจำนำไปขังไว้ ณ คฤหาสน์หลังหนึ่ง ให้ควบคุมไว้อย่างแข็งแรง
เจ้าโปลชนกมหาอุปราช เมื่อถูกราชภัยจองจำเช่นนั้น ก็ทรงตั้งสัตยาธิษฐานว่า "หากตัวเราคิดคดขบถต่อพระเชษฐาธิราชดังกล่าวหาแล้ว ขอให้เครื่องจองจำจงอย่าได้หลุดจากมือและเท้าของเราเลย หากตัวเรามิได้คิดคดขบถต่อพระเชษฐาธิราชแล้ว ขอให้เครื่องจองจำจงหลุดจากมือและเท้าของเรา และขอให้ประตูเรือนจำจงเปิดเถิด" ในทันใดนั้นเอง เครื่องพันธนาการก็หักออกเป็นท่อน ๆ และประตูก็เปิดออก เจ้าโปลชนกอุปราชก็เสด็จหนีออกไปประทับอยู่ที่บ้านชายแดนหนึ่ง ชาวบ้านชายแดนเหล่านั้นจำพระองค์ได้ดี จึงช่วยกันเฝ้าปรนนิบัติพระมหาอุปราช ให้ทรงได้รับความสุขสำราญตลอดเวลา
เจ้าโปลชนกมหาอุปราชเสด็จลี้ภัยไปประทับอยู่ ณ บ้านชายแดนหลายเพลา ยิ่งนานวันเข้าก็ทรงเกลี้ยกล่อมผู้คนชาวชนบทได้มากขึ้นเป็นลำดับ เมื่อมีพวกพ้องบริวารมาก จึงทรงดำริว่า "เราเป็นผู้บริสุทธิ์ มีจิตจงรักภักดีต่อพระเชษฐาธิราช มิได้คิดคดทรยศเลย แต่เรากลับถูกหาว่าเป็นผู้ทรยศจนต้องหนีมาพึ่งชาวบ้านอยู่เช่นนี้ บัดนี้เรามีพวกพ้องมากพอแล้ว จึงตรัสเรียกประชุมพลนิกายทั้งหมด แล้วยกพลจากบ้านชายแดนมุ่งตรงกรุงมิถิลา เมื่อจวนจะถึง รับสั่งให้ตั้งค่ายพักพลอยู่ภายนอกพระนคร
จะกล่าวถึงเหล่าพลทหารแห่งกรุงมิถิลา เมื่อได้ทราบว่า เจ้าโปลชนกมหาอุปราชเสด็จนำกองพลใหญ่หลวงมา ต่างก็นำอาวุธยุทโธปกรณ์ อีกทั้งช้างม้าเป็นต้น มามอบถวายเจ้าโปลชนกมหาอุปราช บรรดาชาวเมืองต่างก็พากันสมัครเข้าด้วยกับเจ้าโปลชนกเป็นจำนวนมาก เจ้าโปลชนกทรงส่งสาสน์ไปถึงพระเชษฐาธิราชว่า "ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้ามิได้คิดคดทรยศต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท แต่ต้องถูกใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทจับจองจำข้าพระพุทธเจ้า เพราะทรงเชื่อถ้อยคำใส่ไคล้ของอำมาตย์สอพลอ ข้าพระพุทธเจ้าจำเป็นจำใจต้องลี้ภัย บัดนี้ถึงคราวแล้วที่ข้าพระพุทธเจ้าจะต้องก่อเวรกับใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ขอพระองค์จงทรงพระวินิจฉัยให้ถ่องแท้ว่า จะพระราชทานพระมหาเศวตฉัตรให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า หรือจะทำสงครามกับข้าพระพุทธเจ้า ขอให้ทรงเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง"
พระราชาอริฏฐชนกได้ทรงสดับสาสน์ของเจ้าโปลชนก ทรงสะดุ้งหวาดกลัว ไม่ทรงปรารถนาจะทำสงคราม จึงตรัสปรึกษาพระอัครมเหสีว่า "ดูก่อน พระน้อง การรบไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าจะแพ้หรือชนะหากจะมีอันตรายเกิดขึ้นแก่เรา พระน้องจงรักษาพระครรภ์ไว้ให้ปลอดภัยเถิด" เมื่อตรัสดังนั้นแล้ว ก็เสด็จออกกรีธาทัพมุ่งตรงไปยังค่ายของเจ้าโปลชนก ได้ถูกทหารของเจ้าโปลชนกปลงพระชนม์เสียในสนามรบนั่นเอง
ชาวเมืองมิถิลา เมื่อได้ทราบว่า พระเจ้าอยู่หัวของตนถูกปลงพระชนม์สวรรคตแล้ว ต่างก็ตื่นตระหนกตกใจเป็นดกลาหล แม้พระอัครมเหสีของพระเจ้าอริฏฐชนก เมื่อทรงทราบว่าพระสวามีเสด็จเสวรรคตเสียแล้ว ก็เตรียมของมีค่าบรรจุลงกระเช้า เอาผ้าเก่า ๆ ปิด แล้วเอาข้าวสารใส่ไว้ข้างบน เทินกระเช้าบนพระเศียร เสด็จหนีออกจากพระนครในเวลากลางวัน ไม่มีใครจำพระนางได้ พระนางเสด็จเรื่อยไปโดยไม่มีจุดหมาย ได้ประทับบนศาลาแห่งหนึ่ง ทรงรำพึงที่จะเสด็จไปเมืองกาลจัมปากะ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปได้อย่างไร จะถามคนเดินทางก็ไม่มีใคร ด้วยเดชานุภาพสัตว์ที่เกิดในครรภ์ของพระนาง มิใช่สัตว์ธรรมดา เป็นมหาสัตว์ จึงบันดาลให้ท้าวสักกเทวราชแปลงเพศเป็นคนขับยานเนรมิต ซึ่งมีเตียงตั่งอยู่ในยานนั้น ขับไปหยุดอยู่ที่ศาลาที่พระนางประทับอยู่ ท้าวสักกกะแปลงลงจากยาน เข้าไปทูลถามพระนางว่า "จะมีใครไปกาลจัมปากนครบ้าง ?"
พระนางตรัสว่า "ท่านเจ้าขา ดิฉันจะไปจ้ะ"
ท้าวสักกะแปลง "ถ้าเช่นนั้น เชิญแม่ขึ้นยานของข้าพเจ้าเถิด"
พระนาง "ท่านเจ้าขา ฉันมีครรภ์แก่ ไม่อาจขึ้นยานได้ จะขอเดินตามไปข้างหลัง แต่ขอฝากกระเช้าไปด้วย"
ท้าวสักกะแปลง "แม่อย่ากลัวไปเลย เชิญขึ้นนั่งบนยานเถิด ข้าพเจ้ารับรองว่า จะมิให้กระทบกระเทือนครรภ์ของแม่เลย" ในขณะที่พระเทวีจะเสด็จขึ้นยาน ด้วยเดชานุภาพของพระโอรสที่อยูในพระครรภ์ ก็
บันดาลให้แผ่นดินสูงขึ้น ทำให้พระเทวีเสด็จขึ้นประทับบนยานโดยไม่ต้องปีนป่าย เมื่อพระนางขึ้นบนยานแล้ว ก็บรรทมหลับทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น