วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ชาติที่ ๕ พระมโหสธ (หน้า ๗)


แก้ปัญหา  เรื่อง  ข้าว

พระเจ้าวิเทหราชทรงปรารถนาจะทดลองปัญญามโหสธต่อไป  จึงรับสั่งให้ชาวบ้านปราจีนยวมัชฌคามหุุุงข้าวเปรี้ยวประกอบด้วยองค์  ๘  คือ  ๑. ไม่ให้หุงด้วยข้าวสาร   ๒. ไม่ให้หุงด้วยน้ำ   ๓. ไม่ให้หุงด้วยหม้อข้าว   ๔. ไม่ให้หุงด้วยเตาหุงข้าว    ๕. ไม่ให้หุงด้วยไฟ    ๖. ไม่ให้หุงด้วยฟืน    ๗. ไม่ให้หญิงหรือชายยกมา    ๘. ไม่ให้นำมาส่งตามทาง  ถ้าชาวบ้านทำตามนี้ไม่ได้จะถูกปรับไหม

ชาวบ้านพากันไปหามโหสธ   แจ้งเรื่องราวให้ทราบ  มโหสธจึงให้หุงด้วยข้าวแหลก  ซึ่งไม่ใช่ข้าวสาร หุงด้วยน้ำค้างซึ่งไม่ใช่น้ำธรรมดา  หุงด้วยภาชนะดินใหม่ซึ่งไม่ใช่หม้อข้าว  เอาไม้ท่อนเล็ก ๆ  มาตอกเป็นวง  สำหรับตั้งภาชนะ  ไม่เรียกว่าเตา  ใช้ไฟที่เกิดขึ้นเพราะการสีกัน  ไม่ใช้ไฟธรรมดาใช้ใบไม้ซึ่งไม่ใช่ฟืน  เสร็จแล้วชื่อว่าหุงข้าวเปรี้ยว  บรรจุลงในภาชนะใหม่  ผูกด้ายประทับตรา  ให้กระเทยยกไม่ใช่เป็นชายหรือเป็นหญิง  ให้นำลัดไปในที่ซึ่งไม่ใช่ทางหลวง  ชาวบ้านจัดทำตามมโหสธบอกทุกประการ  เสร็จแล้วส่งข้าวเปรี้ยวไปถวายพระเจ้าวิเทหราช  พระเจ้าวิเทหราชทรงทราบว่า  เป็นความคิดของมโหสธก็ทรงโปรดปรานหนักขึ้น




แก้ปัญหา  เรื่อง  ชิงช้าห้อยด้วยเชือกทราย

พระเจ้าวิเทหราชทรงดำริจะทดลองปัญญามโหสธอีกต่อไป   จึงดำริให้ชาวบ้านปราจีนยวมัชฌคาม  ทำชิงช้าห้อยด้วยเชือกทราย  เพราะเชือกทรายอันเก่าขาดไป  ให้ผั่นเชือกทราย  ๑  เส้นส่งไปถวาย  ถ้าทำส่งไม่ได้จะถูกปรับสินไหม

ชาวบ้านจึงนำความไปบอกมโหสธ  มโหสธจึงคิดย้อนปัญญา  พูดเอาใจชาวบ้านไม่ให้วิตก  แล้วบอกให้คนที่กล้าและพูดจาคล่องแคล่ว  ๒-๓  คน  ไปทูลพระราชา  ขอดูตัวอย่างเชือกทรายเส้นเก่าว่าจะมีขนาดเท่าไร  จะได้ทำให้เหมือนของเก่าและถูกพระราชประสงค์  หากพระราชารับสั่งว่า  "เชือกทรายไม่มีในพระราชฐาน"  พวกท่านก็จงทูลว่า  "เมื่อเชือกทรายตัวอย่างไม่มี  ชาวบ้านปราจีนยวมัชฌคามจะทำได้อย่างไร"  ชาย  ๒ - ๓  คน  ไปกราบทูลพระราชาตามที่มโหสธบอก  พระเจ้าวิเทหราชทราบว่า  เป็นความคิดของมโหสธ  ก็ทรงโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง





แก้ปัญหา  เรื่อง  สระน้ำ

พระเจ้าวิเทหราชทรงทดลองปัญญาของมโหสธต่อไป  โดยมีรับสั่งว่า  "ชาวบ้านปราจีนยวมัชฌคามจงส่งสระโบกขรณี  ซึ่งเต็มไปด้วยดอกบัว  ๕  ชนิด  ไปถวาย  โดยมีพระประสงค์จะทรงเล่นน้ำในสระนั้น  หากส่งไปไม่ได้จะต้องถูกปรับ"

ชาวบ้านได้นำความไปแจ้งแก่มโหสธบัณฑิต  มโหสธคิดว่า  เรื่องนี้ต้องย้อนปัญหาอีก  จึงเรียกผู้ชายมา  ๒ - ๓  คน  แล้วบอกว่า  "พวกท่านจงไปเล่นน้ำจนตาแดง  ทั้งผมและผ้าก็ให้เปียก  เอาโคลนทาตัว  ถือเชือก  ก้อนดินท่อนไม้แล้วไปเฝ้าพระราชา  กราบทูลว่า  "ขอเดชะ  ตามที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ชาวปราจีนยวมัชฌคาม  ส่งสระโบกขรณีเต็มด้วยบัว  ๕  ชนิดมาถวายนั้น  ข้าพระพุทธเจ้า
ได้นำสระโบกขรณีมาถวาย  แต่พอสระโบกขรณีเห็นพระนครมีกำแพง  คู  ประตู  หอรบ  ก็กลัว  ตัดเชือกหนีเข้าป่าไป  พวกข้าพระพุทธเจ้าช่วยกันเอาก้อนดิน  ท่อนไม้ไล่ให้กลับก็ไม่ยอมกลับ  ขอให้ฝ่าละอองธุลีพระบาทพระราชทานสระโบกขรณี  ที่เคยนำมาแต่ป่าให้ข้าพระพุทธเจ้า  พวกข้าพระพุทธเจ้าจะได้นำไปผูกกับสระโบกขรณีใหม่  แล้วดึงเอามาถวาย  หากพระราชารับสั่งว่า  "เราไม่เคยนำสระโบกขรณีมาแต่ป่า  พวกเจ้าเอาอะไรมาพูด  ไม่เป็นเรื่องเป็นราว"  ดังนี้  พวกท่านจงกราบทูลต่อไปว่า  "ขอเดชะ  ถ้าไม่ได้อย่างนี้แล้ว  จะนำสระโบกขรณีมาถวายได้อย่างไร ?"

เมื่อมโหสธบอกวิธีย้อนปัญหาแก่ชาย  ๒ - ๓ คนแล้ว  ก็ให้ไปกราบทูลพระราชา  ชาย  ๒ - ๓  คน  ไปเฝ้าพระราชา  กราบทูลตามที่มโหสธบอกทุกประการ







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น