ทำลายพิธีดื่มชัยบาน
พระเจ้าจุลนีพรหมทัตทรงเห็นด้วยกับปุโรหิต ที่จะไม่ให้ยกกองทัพไปยึดกรุงมิถิลาและได้ปรึกษากับปุโรหิตว่า "เราจะทำอย่างไรต่อไป" เมื่อตีเมืองต่าง ๆ ได้สมปรารถนาแล้วเช่นนี้"
เกวัฏปุโรหิตกราบทูลว่า "ขอเดชะ ควรเตรียมการทำพิธีดื่มชัยบาน"
พระเจ้าจุลนีทรงมองให้ปุโรหิตเป็นผู้จัดทำพิธีดื่มชัยบาน ปุโรหิตจึงให้ตกแต่งพระราชอุทยาน แล้วให้ราชเสวกเตรียมสุราไว้ประมาณ ๑,๐๐๐ ไห ตลอดจนของบริโภคก็ให้จัดไว้อย่างเพียงพอ
ทูตทหารที่มโหสธได้ตั้งไว้ก็ส่งข่าวการเตรียมดื่มชัยบานของพระเจ้าจุลนีให้มโหสธทราบ และมโหสธก็ยังได้ทราบจากนกแก้วแสนรู้อีกว่า สุราที่เตรียมไว้นั้นเจือยาพิษลงไปด้วย เพื่อทำลายพระราชาทั้ง ๑๐๑ พระองค์ มโหสธจึงกำชับทูตว่า หากทราบวันที่จะทำพิธีดื่มสุราแน่นอนเมื่อไร ขอให้ส่งข่าวไปให้ทราบ
ทูตเมื่อสืบทราบกำหนดวันแน่นอนแล้ว จึงส่งข่าวไปให้มโหสธทราบ
มโหสธดำริว่า "เราควรเป็นที่พึ่งของพระราชาเหล่านั้น ไม่ควรให้ต้องมาพากันสิ้นพระชนม์ลงเพระาเหตุนี้เลย ดำริดังนี้แล้ว จึงเรียกทหารที่เป็นสหชาติ ๑,๐๐๐ คนมาประชุม แล้วแจ้งว่า "สหายทั้งหลาย เราขอร้องให้พวกท่านได้ช่วยกันทำประโยชน์สำคัญสักอย่างหนึ่ง หวังว่าพวกท่านคงร่วมมือในการนี้เป็นอย่างดี"
พวกทหารถามว่า "ท่านบัณฑิต จะให้พวกข้าพเจ้าทำอะไรก็ขอให้บัญชามาเถิด พวกข้าพเจ้าพร้อมที่จะทำตามทุกอย่าง"
มโหสธ "เราขอบใจพวกท่านมาก กิจที่เราขอร้องให้พวกท่านทำนั้นก็คือ เราได้ทราบจากสายลับของเราส่งข่าวมาว่า พระเจ้าจุลนีพรหมทัตแห่งอุตรปัญจาลนคร ได้ตกแต่งพระราชอุทยาน เพื่อให้เป็นสถานที่ทำพิธีดื่มชัยบาน เตรียมสุรามา ๑,๐๐๐ ไห ให้พระราชา ๑๐๑ ดื่ม ในวันนั้น พวกท่านจงพากันไปที่พระราชอุทยานของพระเจ้าจุลนี ทำลายพิธีดื่มชัยบานนั้นเสีย โดยหาเรื่องทุ่มเถียงกันกับพวกข้าราชการที่มาเตรียมการอยู่ในพิธีนั้น แล้วส่งเสียงโห่ร้องอาละวาดทุบตีไหสุราทั้งหมด ตลอดจนของบริโภคก็จงช่วยกันเอาเททิ้งไป อย่าให้นำมาบริโภคได้ เสร็จแล้วให้ส่งสัญญาณรวมพวกโดยเร็ว เมื่อพร้อมกันแล้วก็ให้ประกาศขึ้นว่า พวกเราเป็นทหารของมโหสธบัณฑิตในกรุงมิถิลา หากใครกล้าไม่กลัวตาย ก็จงมาจับพวกเรา เสร็จแล้วก็พากันเดินกลับอย่างเป็นระเบียบ นี่แหละกิจที่เราขอร้องให้พวกท่านทำ"
เมื่อทหาร ๑,๐๐๐ คน รับบัญชาแล้วต่างก็ทำความเคารพมโหสธ แยกกันไปเตรียมอาวุธ นัดพร้อมกันอีกครั้งหนึ่ง แล้วจึงเดินทางออกจากกรุงมิถิลา มุ่งตรงไปพระราชอุทยานของพระเจ้าจุลนี เห็นเศวตฉัตรของพระราชา ๑๐๑ ยกขึ้นเป็นแถว เห็นไหสุราและของบริโภคตั้งอยู่เรียงราย จึงตรงเข้าไป บรรดาข้าราชการที่ควบคุมอยู่ ณ ที่นั้นได้ห้ามปราม ไม่ยอมให้ทหารเหล่านั้นเข้าไป เกิดทุมเถียงกันยกใหญ่ ทหาร ๑,๐๐๐ คนก็โห่ร้องทุบตีไหสุราของบริโภคจนไม่มีดี เสร็จแล้วก็ประกาศให้รู้ว่า พวกตนเป็นทหารของมโหสธบัณฑิตแห่งกรุงมิถิลา แล้วพากันเดินกลับ
ความได้ทราบถึงพระเจ้าจุลนี ทรงพิโรธที่ถูกทหารแห่งกรุงมิถิลามาทำลายพิธีของพระองค์ และทำให้สุราเจือยาพิษที่ประกอบไว้ต้องสูญเสียไป
ฝ่ายพระราชา ๑๐๑ ก็พิโรธที่ทหารกรุงมิถิลามาทำให้พระองค์ต้องอดดื่มสุราไปตาม ๆ กัน หารู้ไม่ว่า สุรานั้นมียาพิษ
ฝ่ายพวกทหารที่กำลังอยากดื่มสุรา ก็ขัดใจทหารกรุงมิถิลาที่ทำให้พวกตนไม่ได้ดื่มสุราชนิดหามูลค่ามิได้.
พระเจ้าจุลนียกกองทัพล้อมมิถิลานคร
พระเจ้าจุลนีพรหมทัต ตรัสเรียกพระราชาเหล่านั้นมารับสั่งว่า "พวกท่านจงไปกับข้าพเจ้า จับพระเจ้าวิเทหราชมาตัดเศียร แล้วสับให้เป็นท่อน ๆ ฐานองอาจทะนงตน สั่งทหารมารังควาญความสำราญของพวกเรา" แล้วให้เตรียมทัพช้าง ทัพม้า ทัพรถ ทัพราบ จำนวนมากมาย หมายจะนำไปเหยียบมิถิลานครให้พินาศไปในพริบตา แม้ปุโรหิตจะทูลทัดทานอย่างไร ก็มิได้ทรงเชื่อฟัง ด้วยความมัวเมาในราชอิสริยยศ ถือพระองค์ว่าเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ พอได้เวลาก็ยกกองทัพไป พระราชา ๑๐๑ พระองค์ ก็ตามเสด็จไปด้วย
ทูตทหารที่วางไว้ก็ได้ส่งข่าวการเคลื่อนขบวนทัพของพระเจ้าจุลนีมุ่งกรุงมิถิลา ให้มโหสธทราบ
มโหสธ เมื่อได้ทราบข่าวว่า กองทัพของพระเจ้าจุลนีจะมาถึงในวันนั้น ๆ ก็เตรียมการป้องกันอย่างแข็งแรง
กองทัพของพระเจ้าจุลนีมาถึงกรุงมิถิลาตอนหัวค่ำ แสงเพลิงนับด้วยแสนดวงเรียงรายกันรอบกรุงมิถิลา แม่ทัพจัดวางทัพช้างล้อมกรุงมิถิลาไว้ ชั้นที่ ๑ ทัพม้า ชั้นที่ ๒ ทัพรถ ชั้นที่ ๓ เสียงช้างมารถอึกทึกกึกก้อง ปานประหนึ่งว่าแผ่นดินมิถิลานครจะถล่มทลายลง
อาจารย์ทั้ง ๔ คือ เสนกะ ปุกกุสะ กามินท์ เทวินท์ เมื่อได้ยินเสียงโห่ร้องกึกก้องโกลาหล เห็นแสงเพลิงสว่างไสวไปทั่วเมืองเช่นนั้น ก็ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น จึงไปเฝ้าพระเจ้าวิเทหราช กราบทูลถามว่า "ขอเดชะ เสียงอื้ออึงกึกก้องโกลาหลไปทั่วพระนครนั้น มีอะไรเกิดขึ้น ข้าพระพุทธเจ้ายังไม่ทราบเหตุ เห็นควรพระองค์จะทรงพิจารณาให้ทราบเรื่องเถิด พระพุทธเจ้าข้า"
พระเจ้าวิเทหราชจะทรงเปิดพระแกลดู ก็ทราบว่า พระเจ้าจุลนีพรหมทัตยกกองทัพมาล้อมพระนครแล้ว ทั้งตกพระทัยกลัวเป็นอย่างยิ่ง ทรงประทับยืนตะลึงตรัสอะไรไม่ออก จนอาจารย์ทั้ง ๔ กราบทูลเตือนขึ้น จึงตรัสว่า "เราเห็นจะไม่พ้นเงื้อมมือข้าศึกครั้งนี้แน่แล้ว พรุ่งนี้ พระเจ้าจุลนีคงยกบุกเข้าโจมตีเราเป็นมั่นคง"
......................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น