วันอังคารที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2557

ชาติที่ ๕ พระมโหสธ (หน้า ๒๖)


ทำลายพิธีดื่มชัยบาน

พระเจ้าจุลนีพรหมทัตทรงเห็นด้วยกับปุโรหิต  ที่จะไม่ให้ยกกองทัพไปยึดกรุงมิถิลาและได้ปรึกษากับปุโรหิตว่า  "เราจะทำอย่างไรต่อไป"  เมื่อตีเมืองต่าง ๆ  ได้สมปรารถนาแล้วเช่นนี้"

เกวัฏปุโรหิตกราบทูลว่า  "ขอเดชะ  ควรเตรียมการทำพิธีดื่มชัยบาน"

พระเจ้าจุลนีทรงมองให้ปุโรหิตเป็นผู้จัดทำพิธีดื่มชัยบาน  ปุโรหิตจึงให้ตกแต่งพระราชอุทยาน  แล้วให้ราชเสวกเตรียมสุราไว้ประมาณ  ๑,๐๐๐  ไห  ตลอดจนของบริโภคก็ให้จัดไว้อย่างเพียงพอ

ทูตทหารที่มโหสธได้ตั้งไว้ก็ส่งข่าวการเตรียมดื่มชัยบานของพระเจ้าจุลนีให้มโหสธทราบ  และมโหสธก็ยังได้ทราบจากนกแก้วแสนรู้อีกว่า  สุราที่เตรียมไว้นั้นเจือยาพิษลงไปด้วย  เพื่อทำลายพระราชาทั้ง  ๑๐๑  พระองค์  มโหสธจึงกำชับทูตว่า  หากทราบวันที่จะทำพิธีดื่มสุราแน่นอนเมื่อไร  ขอให้ส่งข่าวไปให้ทราบ

ทูตเมื่อสืบทราบกำหนดวันแน่นอนแล้ว  จึงส่งข่าวไปให้มโหสธทราบ

มโหสธดำริว่า  "เราควรเป็นที่พึ่งของพระราชาเหล่านั้น  ไม่ควรให้ต้องมาพากันสิ้นพระชนม์ลงเพระาเหตุนี้เลย  ดำริดังนี้แล้ว จึงเรียกทหารที่เป็นสหชาติ  ๑,๐๐๐  คนมาประชุม  แล้วแจ้งว่า  "สหายทั้งหลาย เราขอร้องให้พวกท่านได้ช่วยกันทำประโยชน์สำคัญสักอย่างหนึ่ง  หวังว่าพวกท่านคงร่วมมือในการนี้เป็นอย่างดี"

พวกทหารถามว่า  "ท่านบัณฑิต  จะให้พวกข้าพเจ้าทำอะไรก็ขอให้บัญชามาเถิด  พวกข้าพเจ้าพร้อมที่จะทำตามทุกอย่าง"

มโหสธ  "เราขอบใจพวกท่านมาก  กิจที่เราขอร้องให้พวกท่านทำนั้นก็คือ  เราได้ทราบจากสายลับของเราส่งข่าวมาว่า  พระเจ้าจุลนีพรหมทัตแห่งอุตรปัญจาลนคร  ได้ตกแต่งพระราชอุทยาน  เพื่อให้เป็นสถานที่ทำพิธีดื่มชัยบาน  เตรียมสุรามา  ๑,๐๐๐  ไห  ให้พระราชา  ๑๐๑  ดื่ม  ในวันนั้น  พวกท่านจงพากันไปที่พระราชอุทยานของพระเจ้าจุลนี  ทำลายพิธีดื่มชัยบานนั้นเสีย  โดยหาเรื่องทุ่มเถียงกันกับพวกข้าราชการที่มาเตรียมการอยู่ในพิธีนั้น  แล้วส่งเสียงโห่ร้องอาละวาดทุบตีไหสุราทั้งหมด  ตลอดจนของบริโภคก็จงช่วยกันเอาเททิ้งไป  อย่าให้นำมาบริโภคได้  เสร็จแล้วให้ส่งสัญญาณรวมพวกโดยเร็ว  เมื่อพร้อมกันแล้วก็ให้ประกาศขึ้นว่า  พวกเราเป็นทหารของมโหสธบัณฑิตในกรุงมิถิลา  หากใครกล้าไม่กลัวตาย  ก็จงมาจับพวกเรา  เสร็จแล้วก็พากันเดินกลับอย่างเป็นระเบียบ  นี่แหละกิจที่เราขอร้องให้พวกท่านทำ"

เมื่อทหาร  ๑,๐๐๐ คน  รับบัญชาแล้วต่างก็ทำความเคารพมโหสธ  แยกกันไปเตรียมอาวุธ  นัดพร้อมกันอีกครั้งหนึ่ง  แล้วจึงเดินทางออกจากกรุงมิถิลา  มุ่งตรงไปพระราชอุทยานของพระเจ้าจุลนี  เห็นเศวตฉัตรของพระราชา  ๑๐๑  ยกขึ้นเป็นแถว  เห็นไหสุราและของบริโภคตั้งอยู่เรียงราย  จึงตรงเข้าไป บรรดาข้าราชการที่ควบคุมอยู่  ณ  ที่นั้นได้ห้ามปราม  ไม่ยอมให้ทหารเหล่านั้นเข้าไป  เกิดทุมเถียงกันยกใหญ่  ทหาร  ๑,๐๐๐  คนก็โห่ร้องทุบตีไหสุราของบริโภคจนไม่มีดี  เสร็จแล้วก็ประกาศให้รู้ว่า  พวกตนเป็นทหารของมโหสธบัณฑิตแห่งกรุงมิถิลา  แล้วพากันเดินกลับ

ความได้ทราบถึงพระเจ้าจุลนี  ทรงพิโรธที่ถูกทหารแห่งกรุงมิถิลามาทำลายพิธีของพระองค์  และทำให้สุราเจือยาพิษที่ประกอบไว้ต้องสูญเสียไป

ฝ่ายพระราชา  ๑๐๑  ก็พิโรธที่ทหารกรุงมิถิลามาทำให้พระองค์ต้องอดดื่มสุราไปตาม ๆ  กัน  หารู้ไม่ว่า สุรานั้นมียาพิษ

ฝ่ายพวกทหารที่กำลังอยากดื่มสุรา  ก็ขัดใจทหารกรุงมิถิลาที่ทำให้พวกตนไม่ได้ดื่มสุราชนิดหามูลค่ามิได้.




พระเจ้าจุลนียกกองทัพล้อมมิถิลานคร

พระเจ้าจุลนีพรหมทัต  ตรัสเรียกพระราชาเหล่านั้นมารับสั่งว่า  "พวกท่านจงไปกับข้าพเจ้า  จับพระเจ้าวิเทหราชมาตัดเศียร  แล้วสับให้เป็นท่อน ๆ  ฐานองอาจทะนงตน  สั่งทหารมารังควาญความสำราญของพวกเรา"  แล้วให้เตรียมทัพช้าง  ทัพม้า ทัพรถ  ทัพราบ  จำนวนมากมาย  หมายจะนำไปเหยียบมิถิลานครให้พินาศไปในพริบตา แม้ปุโรหิตจะทูลทัดทานอย่างไร  ก็มิได้ทรงเชื่อฟัง  ด้วยความมัวเมาในราชอิสริยยศ  ถือพระองค์ว่าเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่  พอได้เวลาก็ยกกองทัพไป  พระราชา  ๑๐๑  พระองค์ ก็ตามเสด็จไปด้วย

ทูตทหารที่วางไว้ก็ได้ส่งข่าวการเคลื่อนขบวนทัพของพระเจ้าจุลนีมุ่งกรุงมิถิลา  ให้มโหสธทราบ

มโหสธ  เมื่อได้ทราบข่าวว่า  กองทัพของพระเจ้าจุลนีจะมาถึงในวันนั้น ๆ  ก็เตรียมการป้องกันอย่างแข็งแรง

กองทัพของพระเจ้าจุลนีมาถึงกรุงมิถิลาตอนหัวค่ำ  แสงเพลิงนับด้วยแสนดวงเรียงรายกันรอบกรุงมิถิลา แม่ทัพจัดวางทัพช้างล้อมกรุงมิถิลาไว้  ชั้นที่ ๑  ทัพม้า   ชั้นที่  ๒  ทัพรถ   ชั้นที่  ๓  เสียงช้างมารถอึกทึกกึกก้อง  ปานประหนึ่งว่าแผ่นดินมิถิลานครจะถล่มทลายลง

อาจารย์ทั้ง  ๔  คือ  เสนกะ  ปุกกุสะ  กามินท์  เทวินท์  เมื่อได้ยินเสียงโห่ร้องกึกก้องโกลาหล  เห็นแสงเพลิงสว่างไสวไปทั่วเมืองเช่นนั้น  ก็ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น  จึงไปเฝ้าพระเจ้าวิเทหราช  กราบทูลถามว่า  "ขอเดชะ  เสียงอื้ออึงกึกก้องโกลาหลไปทั่วพระนครนั้น  มีอะไรเกิดขึ้น  ข้าพระพุทธเจ้ายังไม่ทราบเหตุ  เห็นควรพระองค์จะทรงพิจารณาให้ทราบเรื่องเถิด  พระพุทธเจ้าข้า"

พระเจ้าวิเทหราชจะทรงเปิดพระแกลดู  ก็ทราบว่า พระเจ้าจุลนีพรหมทัตยกกองทัพมาล้อมพระนครแล้ว ทั้งตกพระทัยกลัวเป็นอย่างยิ่ง  ทรงประทับยืนตะลึงตรัสอะไรไม่ออก  จนอาจารย์ทั้ง  ๔  กราบทูลเตือนขึ้น  จึงตรัสว่า  "เราเห็นจะไม่พ้นเงื้อมมือข้าศึกครั้งนี้แน่แล้ว  พรุ่งนี้  พระเจ้าจุลนีคงยกบุกเข้าโจมตีเราเป็นมั่นคง"


......................................

























ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น