ราชสวดีธรรม (ต่อ)
เป็นข้าราชการ ต้องบำรุงเลี้ยงมารดาบิดาให้ผาสุก ผู้หลักผู้ใหญ่ในสกุลควรเกื้อกูลนบนอบให้ชอบธรรม ควรมีหิริโอตตัปปะเป็นกัลยาณมิตร บำรุงจิตและความประพฤติให้ดีงาม ควรมีอาจารสมบัติได้ฝึกหัดไว้เป็นอันดี มีศิลปะได้ศึกษาพอสามารถในราชกิจ รู้จักข่มจิตไม่ทำตนให้วิปริตเพราะขาดสังวร
มีตนได้ฝึกฝนพร้อมทั้งวิทยาและจริยาสมบัติ เป็นผู้คงที่ไม่แปรผันที่ในคราวสมบัติและวิบัติ (คือ ไม่ดีใจจนลิงโลดเวลามีโชค ไม่เศร้าโศกในเวลาเคราะห์ร้าย) มีอัธยาศัยอ่อนโยนไม่เย่อหยิ่ง ไม่ประมาทในราชกิจ มีความประพฤติสุจริตและขยันไม่เกียจคร้านในการอุปัฏฐาก
เป็นข้าราชการ ควรประพฤติอ่อนน้อม มีความเคารพยำเกรงในผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นคนเรียบร้อยทั้งกายและวาจา ให้ผู้ที่สมาคมคบหาได้รับความสุขทั้งกายและใจ ทูตต่างประเทศที่เขาส่งมาด้วยเรื่องเนื่องด้วยความลับ ควรเว้นให้ห่างไกลอย่าใกล้เคียง พึงเอาใจใส่ดูแลแต่เจ้าของตน อย่าสาละวนด้วยคนของราชปรปักษ์
เป็นข้าราชการ เมื่อหวังความเจริญแก่ตน ควรเข้าหาสมณพราหมณ์ผู้มีศีล เป็นพหูสูต แล้วสมาทานรักษาศีล บำรุงด้วยข้าวน้ำ และพึงไต่ถามบาปบุญตุณโทษ ประโยชน์และมิใช่ประโยชน์
กะสมณพราหมณ์นั้น
เป็นข้าราชการ ต้องเป็นผู้สุขุมรอบคอบฉลาดในราชกิจ และสามารถจัดการให้ดำเนินไปโดยเรียบร้อย รู้จักกาลรู้จักสมัยว่า ควรจะปฏิบัติอย่างไร
บุตรหรือพี่น้องวงศ์ญาติผู้ไม่ตั้งอยู่ในศีลาจารวัตร ไม่ควรยกย่องให้เป็นใหญ่ปกครองหมู่คณะ เพราะว่า เขาเป็นคนพาล อันคนพาลท่านกล่าวว่า ไม่ใช่ญาติ เปรียบเหมือนคนตายแล้วถูกทอดทิ้งไวในป่าช้า มีแต่จะผลาญทรัพย์ให้พินาศ และไม่อาจยังราชกิจให้บริบูรณ์ได้ คนเช่นนี้ไม่ควรยกย่อง แต่เมื่อเขาเข้ามาหาก็ควรให้เสื้อผ้าและอาหารพอเลี้ยงชีพ แต่พวกทาสกรรมกรผู้ใดตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรม เป็นคนขยันหมั่นเพียร ก็ควรยกย่องให้เป็นใหญ่ปกครองหมู่คณะได้
เป็นข้าราชการพึงประกอบด้วยศีลาจารวัตร มีสัตยธรรมไม่ละโมบโลภมากเห็นแต่จะได้จนออกนอกหน้า พึงประพฤติตามใจเจ้าไม่เข้าข้างคนผิด มีความจงรักภักดีคงที่ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ต้องรู้จักพระราชนิยมและปฏิบัติตามพระราชประสงค์อย่าขัดพระราชอัธยาศัย เวลาผลัดพระภูษาและสรงสนาน พึงก้มศีรษะชำระพระบาท แม้จะถูกกริ้วกราดต้องพระราชอาญาก็อย่ามีการโกรธตอบ
พระเจ้าแผ่นดินเป็นผู้ที่พึงบูชาสักการะ เพราะพระองค์พระราชทานทั้งที่นอนหมอนมุ้งผ้านุ่งผ้าห่มยวดยานบ้านเรือนที่อยู่อาศัย สามารถบันดาลโภคสมบัติอิสริยยศและบริวารยศให้ตกทั่วถึงกัน ประดุจมหาเมฆยังฝนให้ตกทั่วไปแก่หมู่สัตว์ จึงสมควรที่จะบูชาพระองค์ท่านโดยแท้จริง
นี่แหละเจ้าทั้งหลาย คือ "ราชวสดีธรรม" สำหรับข้าราชการควรประพฤติตาม จะได้เป็นที่โปรดปรานและได้รับความนับถือจากเจ้านายทั้งหลาย
เมื่อวิธุรบัณฑิตสั่งสอนบุตรภรรยาญาติมิตรจบลง ก็ถึงวันที่ ๓ ตามกำหนดพอดี พอรุ่งเช้าจึงอาบน้ำชำระกายและบริโภคโภชนาหารรสเลิศต่าง ๆ เสร็จแล้วจึงพาหมู่ญาติไปสู่พระราชนิเวศน์ เพื่อเข้าเฝ้าทูลลา ไปกับมาณพ ถวายบังคมแล้วกราบทูลว่า "ขอเดชะ ข้าแต่พระองค์ผู้จอมราช ข้าพระองค์ขอถวายบังคมลาใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทไปกับมาณพในวันนี้ เขาจะนำไปร้ายดีอย่างไรก็ยังไม่ทราบเกล้ากราบกระหม่อม ขอใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงคอยฟังข่าวด้วย ข้าพระพุทธเจ้าขอฝากภรรยา ญาติและมิตรของข้าพระองค์ ขอให้ทรงพระกรุณาชุบเลี้ยงเหมือนข้าพระองค์ยังพึ่งพระบรมโพธิสมภารอยู่ การที่ข้าพระองค์ตอบคำถามของมาณพว่าเป็น "ทาส" นั้น ข้อนี้เป็นความผิดพลาดของข้าพระองค์ พระราชอาญาไม่พ้นเกล้า ข้าพระองค์เห็นโทษนั้นแล้ว ขอทรงพระมหากรุณาพระราชทานอภัยโทษแก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด ข้าพระองค์มิได้มีที่อื่นเป็นที่พึ่งอีก แม้พลาดพลั้งในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว ก็ขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารตามเดิม"
.........................
(ยังมีต่ออีก)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น