วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ชาติที่ ๙ พระวิธุรบัณฑิต (หน้า ๓)

พญานาคจึงเสด็จออกจากห้องด้วยพระหฤทัยกระวนกระวาย  ประทับลงเหนือแท่นบรรทม  แล้วดำริว่า  "พระนางจะเอาหัวใจของวิธุรบัณฑิต  ถ้าไม่ได้จักต้องตาย  จะทำอย่างไรดีเล่า"

นางอิรันทตีธิดาพญานาคเห็นอาการของพระบิดาเต็มไปด้วยความวิตกกังวลหนักเช่นนั้น  จึงทูลถามว่า  "ข้าแต่เสด็จพ่อ  พระพักตร์ของพระองค์เป็นเหมือนดอกปทุมที่ถูกขยำจนช้ำเขียว  ทรงพระปริวิตกด้วยสิ่งใดนักหรือ  เพคะ"

"เจ้าอิรันทตี  มารดาของเจ้าปรารถนาสิ่งที่เป็นไปไม่ได้  คือ  อยากได้หัวใจของวิธุรบัณฑิต  ซึ่งเป็นที่รักของมนุษย์ทั้งชมพูทวีป  ถ้าไม่ได้ก็จักต้องตาย  พ่อกำลังจนปัญญาอยู่  เจ้าควรจะช่วยชีวิตมารดาของเจ้าไว้"  ตรัสแล้วกระซิบว่า  "เจ้าควรจะหาภัสดาสักคนหนึง  เลือกเอาที่เก่งกล้าสามารถ  ซึ่งจะไปเอาหัวใจของวิธุรบัณฑิตมาให้เราได้  เจ้าจะทำได้ไหม ?"

นางอิรันทตีทราบดังนั้นแล้วก็ตัดสินใจปลอบพระราชบิดามารดาให้คลายกังวล  แล้วก็จัดแจงแต่งองค์อย่างงามพริ้ง  แหวกน้ำออกจากนาคพิภพ  เหาะตรงไปยังภูเขาซึ่งมีสีเขียวดุจเมฆตั้งทะมึนอยู่ใกล้ฝั่งมหาสมุทรในป่าหิมวันต์  เที่ยวเก็บดอกไม้มาประดับภูเขาอย่างสวยงาม  แล้วก็ฟ้อนรำขับร้องอย่างไพเราะเป็นใจความว่า

                             "คนธรรพ์นาค  ครุฑ  มนุษย์  กินนร  คนไหนก็
ตามที  ถ้าสามารถนำเอาหัวใจของวิธุรบัณฑิตมาถวาย
พระมารดาของเราได้  เราจะยอมเป็นภรรยา"

ขณะนั้น  ปุณณกยักษ์หลานท้าวเวสวัณมหาราช  ขับม้าผ่านมา  ได้ยินเสียงเพลงเข้ารู้สึกคล้ายกับเสียงเพลงนั้นเฉือนตัดผิวหนังเข้าไปถึงเยื่อกระดูก  จึงชักม้าให้เลี้ยวเข้าไปหา  พอเห็นนางอิรันทตีก็เกิดความปฏิพัทธิ์รักใคร่  

แม้นางอิรันทตีก็เกิดความรักทันที  จึงฉวยข้อมือปุณณกยักษ์  พาไปเฝ้าพระบิดา  พระปุณณกยักษ์ทูลพญานาคว่า  "ข้าแต่พระองค์ผู้ประเสริฐ  ข้าพระองค์ชื่อปุณณกยักษ์  บัดนี้  ปรารถนาจะเป็นข้าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท  คือ  ปรารถนาจะได้เจ้าหญิงอิรันทตีเป็นคู่สมรส  ขอพระองค์ทรงรับสินสอด  คือ  ช้าง  ม้า  รถ  อย่างละร้อย  เกวียนที่เต็มด้วยแก้วมณีร้อยเล่ม  แล้วประทานเจ้าหญิงอิรันทตีแก่ข้าพระองค์เถิด"

"ดูก่อน  ปุณณกยักษ์  จงรอไว้สักประเดี๋ยวก่อน  เราจะปรึกษาหารือกับญาติมิตรเพื่อนสนิทดูก่อน เพราะประเพณีที่ดีจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคนส่วนมาก  สิ่งใดที่คนส่วนมากไม่เห็นชอบด้วย  ถ้าทำลงไปอาจไม่ได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนให้สำเร็จ  ซึ่งจะเดือดร้อนเป็นผลร้ายภายหลัง"

พญานาคตรัสดังนั้นแล้ว  จึงเสด็จเข้าห้องพระนางวิมลา  แล้วทรงปรึกษาว่า  "แม่วิมลา  มีชายผู้หนึ่ง  เขาชื่อปุณณกยักษ์  มาขอเจ้าอิรันทตีกะเรา  เสนอสินสอดมากมาย  เราจะยกลูกสาวให้หรือไม่ ?"

พระนางวิมลาทูลว่า  "สินสอดจะมีค่าสักเท่าใดก็ไม่สำคัญ  ถ้าปุณณกยักษ์สามารถเอาหัวใจวิธุรบัณฑิตมาให้หม่อมฉันได้  จึงจะควรยอมยกให้  เพราะว่าหม่อมฉันไม่ปรารถนาทรัพย์สินใด ๆ  ยิ่งกว่าหัวใจของวิธุรบัณฑิต  เพคะ"

พญานาคจึงเสด็จออกมาหาปุณณกยักษ์  แล้วตรัสว่า  "เรายินดีจะยกเจ้าอิรันทตีให้  ถ้าท่านจะสามารถนำหัวใจของวิธุรบัณฑิตมาให้แก่เรา  เพราะเราไม่ปรารถนาทรัพย์สินใด ๆ  ทั้งนั้น"

"วิธุรบัณฑิตคือใคร  อยู่ที่ไหน  พระเจ้าข้า ?"  ปุณณกยักษ์ถาม

"เป็นมหาราชครูอยู่ในสำนักพระเจ้าธนัญชัยโกรฑย์  ในเมืองมนุษย์"  พญานาคตอบ

ปุณณกยักษ์ฟังแล้วสั่งเรียกคนใช้ให้นำม้าสินธพมา  แล้วขึ้นขับขี่ตรงไปยังสำนักท้าวเวสวัณทันที  เพื่อขออนุญาต  แต่ขณะนั้น  ท้าวเวสวัณเจ้าแห่งยักษ์กำลังตัดสินคดีแย่งวิมานกันระหว่าง ๒  ตน  
ปุณณกยักษ์ฟังดูรู้ว่าใครจะชนะ  จึงเข้าไปยืนข้างนั้น  พอตัดสินให้ฝ่ายชนะเข้าอยู่ในวิมานนั้นได้  ด้วยคำว่า  "เจ้าจงไป"  ปุณณกยักษ์ถือเอาว่าได้อนุญาตด้วย  จึงรีบขึ้นหลังม้าเหาะไปทันที  พลางก็คิดใคร่ครวญอยู่ว่า  "จะใช้อุบายอย่างไรดี  วิธุรบัณฑิตนี้เป็นดุจดวงมณีของพระเจ้าโกรพย์และของคนทั้งชมพูทวีป  แต่พระเจ้าโกรพย์โปรดสกามาก  เราท้าพนันแล่นสกา เราชนะแล้วจับเอาวิธุรบัณฑิตคงจะได้  เราจะต้องหาวิธีท้าพนันก่อน  ตามธรรมดาพระเจ้าแผ่นดินย่อมปรารถนาแก้วมณีของพระเจ้าจักรพรรดิ  เราไปเอาแก้วมณีนี้มาล่อคงจะสำเร็จ  แก้วมณีนี้มีอยู่ในระหว่างวิบุลบรรพตใกล้กรุงราชคฤห์"  คิดได้ดังนั้นจึงชักม้าบ่ายหน้าตรงไปวิบุลบรรพต  เที่ยวเสาะหาแก้วมณี  พอถึงระหว่างเขาก็เห็นแสงสว่างบาดนัยน์ตาดุจฟ้าแลบ  ก็รู้ได้ว่า  นั่นเป็นแสงแก้วมณีจักพรรดิ  จึงตรงเข้าไปหยิบมา  เจ้ายักษ์กุมภีที่เฝ้าแก้วอยู่ออกขัดขวางทันที  พอเหลือบเห็นสายตาปุณณกยักษ์เข้าก็ตกใจ  ตัวลีบ  งันงกรีบหนีไปแอบอยู่ในซอกเขาจักรวาล  ปุณณกยักษ์ก้ได้แก้วมณีมาสมปรารถนา รีบชักม้าตรงไปยังอินทปัตนคร

ขณะนั้น  พระราชาต่าง ๆ  จาก  ๑๐๑  ประเทศกำลังประชุมกันอยู่  ปุณณกยักษ์จึงแปลงเป็นมาณพเข้าไปท้าเล่นสกาพนันกัน  ไม่ว่าจะเป็นพระราชาองค์ใดก็ได้ทั้งนั้น


.............................

(ยังมีต่ออีก)



















         

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น